เปิด 7 อันดับ เรื่องราว แห่งความทรงจำ ในโลกของ วงการลูกหนัง ที่ถูกกล่าวขานไปตลอดกาล
ในโลกของ วงการลูกหนัง มีเรื่องราวความสำเร็จมากมาย รวมถึง การยกย่อง การอำลา หรือ การเข้าใกล้ความสำเร็จ ที่ถูกจารึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ มากมาย
เรื่องราวเหล่านั้น หลายท่านได้สัมผัสถึง ช่วงเวลา อันเป็นตำนานอันแสนพิเศษนี้ เราขอรวบรวมเหตุการณ์ที่อยู่ในความทรงจำ ของวงการลูกหนังให้คุณได้ติดตามกัน
เทพนิยายของ เลสเตอร์ ซิตี้
หากมีการพูดถึงแชมป์ลีกที่ไม่น่าเป็นไปได้ที่สุด เลสเตอร์ ซิตี้ ฤดูกาล 2015-16 จะต้องเป็นชื่อแรกๆที่ทุกคนนึกถึงแน่นอน
ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้นในโลกฟุตบอลยุคปัจจุบัน บรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกอย่าง แมนฯยูไนเต็ด, แมนฯซิตี้, เชลซี, ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล ต่างแย่งชิงความสำเร็จที่ชื่อว่า ‘แชมป์พรีเมียร์ลีก’ กันอย่างดุเดือด
แต่ คลาดิโอ รานิเอรี ฝ่ากระแสเม็ดเงินมหาศาลและนักเตะระดับโลกของบรรดาบิ๊กทีมขึ้นมาผงาดคว้าแชมป์ได้อย่างเหลือเชื่อ เป็นแชมป์ประวัติศาสตร์ของสโมสร ที่จะถูกพูดถึงไปตลอดกาล แทงบอลออนไลน์เว็บไหนดี
ชีซั่นแห่งการอำลา ของ ฟรานเชสโก้ ต็อตติ
‘จะมีนักเตะเพียงสักกี่คน… PENNY SLOTS ที่เกิดมาเพื่อสโมสรเดียวเช่นนี้’ ฟรานเชสโก้ ต็อตติ คือหนึ่งในนักเตะประเภทนั้น
นักเตะเจ้าของฉายา ‘เจ้าชายหมาป่า’ ที่เลือกอยู่กับสโมสรอันเป็นที่รักของเขา “โรม่า” มาอย่างยาวนานถึง 28 ปี นับตั้งแต่ทีมเยาวชน รับใช้สโมสรไปมากกว่า 600 นัด ทำไป 250 ประตู
นี่คือนักเตะขวัญใจตลอดกาลของแฟนบอล หมาป่ากรุงโรม ซึ่งแน่นอนว่าชื่อของ ฟรานเชสโก้ ต็อตติ จะกลายเป็นตำนานของทีมที่ไม่มีใครจะเข้ามาแทนที่ได้อย่างแน่นอน สกอร์สูงต่ำ
30 ปี แห่งการรอคอยสิ้นสุดลง
สโมสร ลิเวอร์พูล อดีตมหาอำนาจลูกหนังของวงการฟุตบอลอังกฤษ ต้องทนดูคู่แข่งอย่าง แมนยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 13 ครั้ง ตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปี
แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะทำให้พรีเมียร์ลีกหยุดแข่งขันลงชั่วคราว แต่เมื่อการแข่งขันกลับมาอีกครั้ง พลพรรค หงส์แดง ไม่ทำให้แฟนบอลของพวกเขาผิดหวัง
อย่างไรก็ตามบรรดา “เดอะ ค็อป” ทั่วโลก ต่างเฝ้าติดตามผลงานทีมรักของพวกเขาอย่างสุดแสนทรมาน ก็มาถึง นั่นก็คือวันที่ ลิเวอร์พูล รับถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019/2020 อย่างเป็นทางการ ในรอบ 30 ปี
ซึ่งพวกเขา เขียนเรื่องราว แห่งความทรงจำ วงการลูกหนัง ของตนเอง ด้วยการ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่นัดที่ 31 และ เป็นการคว้าแชมป์เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล อังกฤษ
ด้วยการเหลือเกมการแข่งขันอีก 7 นัด โดยลิเวอร์พูลลงเล่น 31 นัด มี 86 คะแนน ทิ้งห่างอันดับ 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 23 คะแนนจากการลงเล่น 31 นัด มี 63 คะแนน
ขณะที่ “หงส์แดง” ลงเล่นครบ 38 นัด มี 99 คะแนน
อันดับ 1. ลิเวอร์พูล (แชมป์) 99 คะแนน
อันดับ 2. แมนฯ ซิตี้ 81 คะแนน
อันดับ 3. แมนฯ ยูไนเต็ด 66 คะแนน (ผลต่าประตูได้เสียดีกว่าเชลซี)
อันดับ 4 .เชลซี 66 คะแนน
ตามคำสัญญา ของชายที่ชื่อ เจอร์เกน คล็อปป์
หากยังจำกันได้ คล็อปป์ ได้ขอเวลาทำทีม 4 ปี เพื่อพา “หงส์แดง” คว้าแชมป์ ซึ่งตอนนี้ เขาได้ทำตามคำมั่นนั้นแล้วด้วยการพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี และ เป็นการสร้างสถิติคว้าแชมป์ลีกเร็วที่สุดก่อนจบฤดูกาล โดยเหลือการแข่งขันเหลืออีกถึง 7 นัด
“มันไม่สำคัญว่าตอนคุณเข้ามาเป็นอย่างไร แต่คนจะจดจำในวันที่คุณลาจากไป โปรดให้เวลาเราเพื่อทำงาน ทั้งผม และ แอลเอฟซี นี่เป็นลีกที่ยากสุดๆ ผมไม่ได้บอกว่าเราสามารถทนได้นานถึง 20 ปี หากเรานั่งอยู่ตรงนี้ 4 ปี ผมคิดว่าเราต้องมีแชมป์สัก 1 รายการ ผมค่อนข้างมั่นใจ หากไม่ใช่ สถานีต่อไปของผมคงอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์”
เจอร์เกน คล็อปป์ ได้เคยกล่าวคำสัญญาไว้กับแฟนบอลหงส์แดงไว้ และเขาได้ทำตามคำกล่าวใน วันที่ 8 ตุลาคม ปี 2015 ได้สำเร็จ หลังพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษไปครองได้ ในฤดูกาลที่ 4 (2019/2020) ตามคำมั่นที่ให้ไว้
ขณะที่ก่อนหน้านี้ คล็อปป์ ยังพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกในรอบ 15 ปี รวมทั้ง ซูเปอร์ คัพ และ แชมป์สโมสรโลก มาแล้ว
ฤดูกาลลื่นของ สตีเวน เจอร์ราร์ด
สตีเวน เจอร์ราร์ด อดีตตำนานกัปตัน ทีมของ ลิเวอร์พูล เขาคือหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก แต่เขาไม่เคยได้แชมป์ลีกสุงสุดเลย ทำได้เพียงเข้ารองแชมป์ในฤดูกาล 2013-14
“เราจะปล่อยให้แชมป์ฤดูกาลนี้หลุดมือไม่ได้” นี่คือสิ่งที่เขาบอกกับเพื่อนร่วมทีม ก่อนเกมที่หงส์แดงซึ่งไม่แพ้มา 11 นัดติดต่อกัน จะลงสนามพบ เชลซี ของโชเซ มูรินโญ
ความผิดพลาดของเขาที่เสียบอลให้ เดมบา บา จนทำให้ทีมเสียประตูแรก ยังคงตามหลอกหลอนเขามาถึงทุกวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีส่วนทำให้ทีมชวดแชมป์ลีกในบั้นปลาย ถ้าคุณอยากพูดถึงความไม่แน่นอนในวงการกีฬา ฤดูกาล 2013-14 ของ สตีเฟน เจอร์ราร์ด คือตัวอย่างที่ดี
ครั้งแรกในฐานะกุนซือ บาร์ซาชุดใหญ่ ของ กวาร์ดิโอลา
เป๊ป กวาร์ดิโอลา เขามาปฏิวัติตัวผู้เล่นของ บาร์เซโลนาฤดูกาล 2008-09 แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วย การขายสตาร์ดังประจำทีมอย่าง โรนัลดินโญ และ เดโก้ ก่อนที่จะพาทีมคว้าแชมป์ทุกรายการตั้งแต่ฤดูกาลแรกจนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งทีมที่ดีสุดในประวัติศาสตร์
หลายคนสงสัยในสิ่งที่ กวาร์ดิโอลา เลือกจะหันหลังให้นักเตะอย่าง โรนัลดินโญ และ เดโก้ แต่กลับพยายามรั้ง ซามูเอล เอโต้ ให้อยู่กับทีมต่ออีกหนึ่งปี
ซึ่งข้อสงสัยได้กระจ่างขึ้น ในฤดูกาลดังกล่าว หอกชาวแคเมอรูน มีส่วนสำคัญช่วยให้ทัพอาซูลกรานา คว้าแชมป์ลาลีก้า , โกปา เดล เรย์ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นั่นคือบทพิสูจน์การตัดสินใจที่เฉียบคมของ กวาร์ดิโอลา
ความยิ่งใหญ่ของ ปอร์โต้ จากผลงาน โชเซ มูรินโญ
วงการฟุตบอลเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในปี 2003 เมื่อชายชื่อ โชเซ มูรินโญ พาเอฟซี ปอร์โต้ คว้าแชมป์ยูฟา แชมปเปี้ยนส์ลีก ได้แบบสุดช็อค
ฤดูกาลดังกล่าวทำให้โลกได้รู้จัก “เดอะ สเปเชียลวัน” ที่ต่อมาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในกุนซือที่ดีที่สุดของโลก พาทีมคว้าแชมป์ได้กับทุกสโมสรทั้ง เชลซี, เรอัล มาดริด, อินเตอร์ มิลาน และ แมนฯยูไนเต็ด
ฤดูกาลสุดท้ายของ เฟอร์กูสัน
มีผู้จัดการทีมไม่กี่คนที่จะมีอิทธิพลต่อโลกลูกหนังได้เท่ากับ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
‘เฟอร์กี้’ พาปีศาจแดงคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 13 สมัย แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย และรายการอื่นอีกมากมาย และทำตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับแฟนบอลตอนรับตำแหน่งคือ “ผมจะโค่นลิเวอร์พูลลงจากบัลลังก์” ก่อนอำลาทีมไปในฤดูกาล 2012-13
เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือจากฟุตบอลในฐานะหนึ่งในโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และ หลังจากนั้นปีศาจแดงยังไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้อีกเลยจนถึงปัจจุบันนี้
บอล หวย มวย บาคาร่า สล็อต joker ครบจบที่นี่ UFASTAR35